อย่างที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า ประเทศไทยนั้น มีเพียงแค่ 3 ฤดูเท่านั้น คือ หน้าร้อน, ร้อนมาก, และร้อนมาก ๆ และวิธีคลายร้อนที่ดีที่สุุดคือ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเครื่องปรับอากาศในปัจจุบันนี้ มีให้เลือกมากมายหลายหลายยี่ห้อ ทั้งแบบตั้งพื้น หรือแขวนพนัง แต่จะเลือกเครื่องปรับอากาศอย่างไรให้เหมาะกับบ้าน หรือห้องนอนของคุณ ในวันนี้เรามีคำตอบให้กับคุณ ตามเรามาได้เลยครับ
1. เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีฉลาก เบอร์ 5
นี่คือวิธีแรกที่ง่ายที่สุด ที่จะทำให้คุณได้เลือกเครื่องปรับอากาศที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรกับเงินในกระเป๋าของคุณ เพราะฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หมายถึงคุณภาพในการใช้งานของเครื่องปรับอากาศให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยฉลากต้องเป็นฉลากของ สมอ. เสมอ
2. เลือกขนาดเครื่องปรับอากาศ ให้เหมาะขนาดห้อง
เรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่อง เพราะขนาดของห้องนั้น มีผลอย่างมากต่อความเย็น เพราะหากมีห้องขนาดใหญ่ แต่ใช้เครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก นอกจากห้องจะไม่เย็นแล้ว ยังทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก สิ้นเปลืองพลังงานเกิดความจำเป็นอีกด้วย
3. เลือกประเภทเครื่องปรับอากาศ
ซึ่งเครื่องปรับอากาศที่ขายอยู่ในท้องตลาดนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ ชนิดติดหน้าต่าง, ชนิดแยกส่วนติดฝาผนัง, และเครื่องปรับอากาศชนิดแยกส่วนตั้งพื้น ซึ่งในแต่ละประเภทนั้น จะมีข้อดีและข้อเสียต่างกันออกไป เช่น ชนิดติดหน้าต่าง เหมาะกับห้องที่มีลักษณะติดตั้งวงกบหน้าต่าง ติดกระจก ช่องแสงติดตาย หรือบานเกล็ด เป็นต้น หากเป็นชนิดติดฝาผนัง หรือแบบแขวนนั้น เหมาะสำหรับห้องที่มีลักษณะทึบ จะติดตั้งได้สวยงาม และมีประสิทธิภาพสูงกว่า ในรูปแบบเครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้นนั้น เหมาะสำหรับห้องที่เป็นกระจกทั้งหมด เนื่องจากผนังทึบไม่อาจเจาะช่องเพื่อติดตั้งได้
วิธีใช้เครื่องปรับอากาศอย่างไร ให้ประหยัดพลังงาน
1. ควรวางเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสม สูงจากพื้นพอสมควร สามารถเปิดปิดปุ่มต่าง ๆ ได้สะดวก และให้ความเย็นเป่าออกจากเครื่อง และหมุนเวียนในห้องได้อย่างทั่วถึง
2. ปิดประตูห้อง หรือหน้าต่างให้มิดชิด ไม่ให้ความเย็นรั่วไหล
3. ตั้งค่าให้เหมาะสม โดยเมื่อเปิดเครื่องแล้ว ควรเปิดความเร็วพัดลมให้ไปที่ตำแหน่งสูงสุดก่อน เมื่อความเย็นได้ที่แล้ว ควรตั้งความเย็นไปที่ 26 องศาเซลเซียส
4. หมั่นทำความสะอาด แผ่นกรองอากาศ ตะแกรง และอุปกรณ์ในระบบปรับอากาศ รวมไปถึงชุดคอมเดนเซอร์ เพื่อให้อากาศผ่านเข้าออกได้อย่างสะดวก จะเป็นการประหยัดไฟได้มาก
5. ใช้พัดลมระบายอากาศเท่าที่จำเป็น
6. ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้ง เมื่อไม่ใช้งาน